กล้วยไม้ชาวนากลายเป็นกระแส นอกจากนี้ยังสามารถปลูกได้ในที่ร่มบางส่วนและต้องการการดูแลเพียงเล็กน้อย นอกจากการรดน้ำและการใส่ปุ๋ยแล้ว คุณควรคิดถึงการตัดหลังดอกบานด้วย จากนั้นพืชจะมีความแข็งแรงมากขึ้นในช่วงออกดอกที่สอง

ควรตัดกล้วยไม้เกษตรกรเมื่อใดและอย่างไร?
ในการตัดกล้วยไม้ของชาวนาอย่างเหมาะสม ให้กำจัดหน่อที่แห้งและเป็นโรคออกหลังจากการออกดอกครั้งแรกสิ่งนี้จะช่วยส่งเสริมการแตกกิ่งก้านเพิ่มเติมและการออกดอกในช่วงที่สอง นอกจากนี้ ควรตัดแต่งกิ่งหากต้นไม้มีความหนาแน่นมากเกินไป โดยสวมถุงมือเนื่องจากต้นไม้มีพิษ
ตัดแต่งกล้วยไม้ชาวนาเพื่อให้ดอกสวยงามยิ่งขึ้น
กล้วยไม้ของชาวนาสร้างความสุขให้กับเจ้าของสวนในฤดูใบไม้ผลิด้วยดอกไม้หลากสีสัน ระยะเวลาออกดอกคงอยู่เกือบตลอดฤดูร้อน อย่างไรก็ตาม คุณควรตัดไม้ประดับออกหลังระยะออกดอกระยะแรก
การตัดออก เป็นการกระตุ้นให้มีการแตกแขนงออกไป ซึ่งก็จะทำให้เกิดดอกใหม่ นอกจากนี้ หลังจากถอนช่อดอกเก่าออกแล้ว ต้นไม้ก็จะมีความแข็งแรงในการผลิตดอกใหม่มากขึ้น
หลังจากช่วงออกดอกครั้งที่สอง ให้ทิ้งช่อดอกแห้งไว้เล็กน้อย คุณสามารถเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์ที่จะหว่านในร่มในฤดูใบไม้ร่วงหรือกลางแจ้งได้ตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป
- การตัดแต่งกิ่งหลังดอกบานแรก
- ตัดหน่อที่เป็นโรคออก
- เบาลงถ้าจำเป็น
- ดึงกล้วยไม้ชาวนาในฤดูใบไม้ร่วง
ตัดหน่อที่แห้งและเป็นโรคออก
โดยทั่วไปแล้ว กล้วยไม้ของชาวนาเป็นพืชที่ดูแลง่าย ไม่ค่อยมีโรคและแมลงรบกวน อย่างไรก็ตาม หากพืชได้รับความชื้นมากเกินไปหรือวางกล้วยไม้ของเกษตรกรไว้ใกล้กันเกินไปกลางแจ้งหรือในภาชนะ โรคเชื้อราก็อาจเกิดขึ้นได้
หากไม้ประดับมีใบแห้งหรือหน่อเน่าจำนวนมาก ควรตัดกลับเพื่อไม่ให้ต้นตาย เล็มต้นไม้ที่มีความหนาแน่นมากเกินไป
หากกล้วยไม้ของชาวนาอยู่กลางแจ้ง ให้ดึงออกในฤดูใบไม้ร่วง พืชหรือที่เรียกว่าดอกแยก ไม่สามารถปลูกเป็นไม้ยืนต้นได้ แต่ปลูกได้เฉพาะรายปีเท่านั้น
ข้อควรระวัง: กล้วยไม้ของชาวนามีพิษ
เกษตรกรกล้วยไม้มีพิษในทุกส่วนของพืช มีสารอัลคาลอยด์หลายชนิดที่สามารถทำให้เกิดพิษร้ายแรงได้ โดยเฉพาะในเด็กและสัตว์เลี้ยง
ดังนั้น ควรใช้ถุงมือเสมอเมื่อตัดกลับ อย่าทิ้งส่วนต่างๆ ของพืชไว้รอบๆ เพื่อไม่ให้ใครได้รับพิษ หากเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยงเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ควรหลีกเลี่ยงการดูแลกล้วยไม้ของชาวนาโดยสิ้นเชิง
เคล็ดลับ
เกษตรกรไม่ควรปลูกกล้วยไม้ไว้ใกล้กันเกินไป - ทั้งกลางแจ้งหรือในกระถาง มิฉะนั้นอาจมีความเสี่ยงที่โรคเชื้อราจะแพร่กระจายได้เนื่องจากความชื้นจากฝนหรือน้ำชลประทานไม่สามารถแห้งสนิทได้