ฟักทองไม่ได้อยู่บนริมฝีปากของทุกคนในวันฮาโลวีนเท่านั้น พวกเขาได้รับการเก็บรักษาไว้อย่างโอชะเพื่อทำผลไม้แช่อิ่มแสนอร่อย ไม่ว่าจะเป็นบัตเตอร์นัท จันทน์เทศ หรือสควอชยักษ์ ล้วนสามารถเก็บรักษาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม

ฟักทองเปรี้ยวหวานได้ยังไง
กระป๋องฟักทองเปรี้ยวหวานสามารถทำได้โดยการตัดฟักทองที่ปอกเปลือกและเมล็ดออกเป็นชิ้น ๆ ปล่อยให้แช่ในน้ำส้มสายชูและน้ำ ปรุงน้ำตาล น้ำส้มสายชู น้ำมะนาว และเครื่องเทศ ต้มชิ้นฟักทองในนั้น และฆ่าเชื้อทุกอย่างที่บรรจุขวดโหลเพื่อเก็บรักษาในเตาอบหรือกาต้มน้ำ
วิธีเก็บรักษาฟักทอง
ฟักทอง 4 กก. สามารถบรรจุไหบด 4 ใบ ใบละ 1 ลิตรได้ นอกจากฟักทองแล้ว คุณจะต้องมีน้ำตาล 2-3 ปอนด์ น้ำส้มสายชู 1/2 ลิตร เครื่องเทศ เช่น มะนาว ฝักวานิลลา แท่งอบเชย กานพลู
- ปอกฟักทองเยอะๆ
- ใช้ช้อนขูดหญ้าแห้งและเมล็ดพืชออก
- หั่นเนื้อฟักทองเป็นชิ้นขนาดพอดีคำแล้วใส่ลงในชาม
- เทน้ำและน้ำส้มสายชูอย่างละ 1/8 ลิตรลงไป ปล่อยให้ทั้งหมดแช่ค้างคืน
- ในขณะที่ฟักทองกำลังสะเด็ดน้ำ ให้เตรียมน้ำสต๊อกไว้ นำน้ำส้มสายชูที่เหลือ, น้ำ 375 มล., น้ำตาล, น้ำมะนาว 1 ผล, ฝักและเนื้อวานิลลา, แท่งอบเชย, กานพลูและขิง 1 ชิ้น แล้วต้มทุกอย่างให้เดือด
- ฆ่าเชื้อขวดโหล ฝาปิด และยางในน้ำเดือดหรือในเตาอบที่อุณหภูมิ 100 องศา เป็นเวลาสิบนาที
- ใส่ชิ้นฟักทองลงในน้ำส้มสายชู-น้ำตาล แล้วต้มทุกอย่างให้เดือด
- ใช้ช้อนมีรูตักฟักทองใส่แก้ว น้ำซุปเย็นราดราด
- ของเหลวควรอยู่ต่ำกว่าขอบแก้ว โดยต้องปิดชิ้นฟักทองทั้งหมด
- ปิดผนึกขวดโหล
ตื่นในเตาอบ
เปิดเตาอบที่ 200 องศา วางแก้วลงในถาดรองน้ำหยด แล้วเทน้ำให้พอประมาณ โดยให้แก้วจมอยู่ในน้ำสูง 2 ซม. แว่นตาจะต้องไม่สัมผัสกันในถาดรองน้ำหยด หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง ของเหลวในแก้วจะเริ่มเกิดฟอง ปิดเตาอบและทิ้งขวดโหลไว้ในนั้นอีกครึ่งชั่วโมง จากนั้นนำแว่นตาออกมาแล้วพักให้เย็นโดยใช้ผ้า
ตื่นในกาต้มน้ำ
ใส่แก้วลงในหม้อพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้สัมผัสกัน เทน้ำลงไปให้แก้วจมอยู่ครึ่งหนึ่ง เมื่อต้มให้ทำตามคำแนะนำของผู้ผลิตกาต้มน้ำ โดยปกติคุณจะปลุกฟักทองเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงที่อุณหภูมิ 90 องศา แก้วจะยังคงอยู่ในกาต้มน้ำเป็นระยะเวลาหนึ่งและจะนำออกมาเฉพาะเมื่ออุ่นแล้วจึงคลุมด้วยผ้าเพื่อให้เย็นสนิท