เพนนีเวิร์ตหรือที่รู้จักกันในชื่อคอยน์เวิร์ต สามารถเติบโตได้เป็นพืชป่าในสวน แต่ยังมักใช้เป็นพืชคลุมดินที่ออกดอกโดยเฉพาะอีกด้วย ในไม่ช้ามันก็แพร่กระจายอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย กินพื้นที่มากขึ้นเรื่อยๆ เราจะเข้าใกล้สมุนไพรได้โดยไม่ต้องกังวลหรือว่าพืชมีพิษ?
เพนนีเวิร์ตมีพิษไหม?
เพนนีเวิร์ตมีพิษเล็กน้อย แต่ปริมาณเล็กน้อยไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ส่วนที่กินได้ของพืชคือใบและดอกสีเหลือง ซึ่งสามารถนำไปใช้ในสลัด นมเปรี้ยว หรือแซนด์วิชได้ ในอดีต เพนนีเวิร์ตยังใช้เป็นพืชสมุนไพร
ส่วนผสมของเพนนีเวิร์ต
ส่วนของพืชของเพนนีเวิร์ตส่วนใหญ่มีสารต่อไปนี้:
- ฟลาโวนอยด์
- แทนนิน
- ซิลิกา
- ซาโปนิน
- สไลม์
- หลากหลาย เอนไซม์
ซาโปนินถือว่าเป็นพิษต่อเรา อย่างไรก็ตาม ความเป็นพิษจะเกิดขึ้นที่ความเข้มข้นสูงเท่านั้น นั่นคือสาเหตุที่เพนนีเวิร์ตจัดว่าเป็นพิษเล็กน้อยในบางแหล่ง ผู้คนสามารถรับประทานในปริมาณเล็กน้อยได้โดยไม่ลังเล ซาโปนินยังพบได้ในมะเขือเทศ พืชตระกูลถั่ว และผักโขม และอื่นๆ
ส่วนที่กินได้ของพืช
ไม่ใช่แค่ไม่ต้องกลัวสมุนไพรนี้เท่านั้นเรายังกินได้ด้วย หากดูแลดีก็จะเติบโตมากจนสามารถ “เก็บเกี่ยว” ได้อย่างสม่ำเสมอ
ใบไม้ที่อ่อนนุ่มตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิจนถึงน้ำค้างแข็งครั้งแรก ถือว่ากินได้ในแง่ของความอร่อย โดยจะเติมในปริมาณเล็กน้อยลงในสลัด ควาร์ก เนยสมุนไพร หรือบนขนมปังและเนยโดยตรง รสชาติออกเปรี้ยวเล็กน้อยคล้ายหน่อไม้ฝรั่ง
ทุกปีตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคมเป็นช่วงที่พืชชนิดนี้ออกดอก เมื่อมีดอกสีเหลืองที่กินได้พอๆ กันปรากฏขึ้น ซึ่งมีคุณค่าในการตกแต่งบนจานอาหารค่ำด้วย
ใช้เป็นพืชสมุนไพร
เป็นที่รู้กันในสมัยก่อนว่าเพนนีเวิร์ตไม่มีพิษ สมัยนั้นยังทราบอีกด้วยว่าพืชชนิดนี้มีส่วนผสมในการรักษาโรค ในยุโรปตะวันออก เพนนีเวิร์ตยังคงใช้เป็นพืชสมุนไพรในปัจจุบัน เช่น ป้องกันอาการท้องร่วง
เคล็ดลับ
ชาที่ทำจากเพนนีเวิร์ตไม่เพียงแต่ดีต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังมีรสชาติอร่อยเทียบได้กับชาเขียวอีกด้วย เทใบและดอกไม้สด 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำเดือด 250 มล. แล้วแช่ไว้ประมาณ 5-10 นาที