ผักชีฝรั่งในหม้อจากซุปเปอร์มาร์เก็ตมักจะปล่อยให้ใบห้อยในเวลาไม่นาน ใช้เวลาไม่นานก่อนที่พาร์สลีย์จะเหี่ยวเฉาจนหมด ตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง ความร้อนมากเกินไป และเหนือสิ่งอื่นใด น้ำมากเกินไปคือสาเหตุหลัก

ทำไมใบพาร์สลีย์ในกระถางถึงร่วงหล่น และฉันควรทำอย่างไร?
หากผักชีฝรั่งแขวนอยู่ในหม้อ สาเหตุที่เป็นไปได้ ได้แก่ หม้อที่มีขนาดเล็กเกินไป น้ำมากเกินไป หรือสถานที่ที่มีแสงแดดจ้าเกินไป เพื่อแก้ปัญหานี้ คุณควรปลูกต้นไม้ใหม่ในกระถางที่ใหญ่ขึ้น รดน้ำน้อยลง และเลือกสถานที่ที่มีแสงสว่างแต่ไม่โดนแสงแดดโดยตรง
สาเหตุของใบร่วง
- หม้อเล็กเกินไป
- น้ำมากเกินไป
- สถานที่แดดจ้าเกินไป
ใช้ผักชีฝรั่งกระถางจากซุปเปอร์มาร์เก็ตทันที
กระถางผักชีฝรั่งที่มีจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตมีไว้สำหรับการบริโภคทันที โดยปกติแล้วไม่สามารถเก็บไว้เป็นเวลานานได้ เมื่อปลูกในสวน ผักชีฝรั่งมักจะตายทันที
เพื่อความปลอดภัย ให้เก็บเกี่ยวก้านที่คุณไม่สามารถนำไปใช้ได้ทันทีและเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานสูงสุดสองวัน
คุณยังสามารถลองใช้เคล็ดลับต่อไปนี้เพื่อเก็บผักชีฝรั่งที่ซื้อมาไว้เป็นเวลานาน แต่ไม่มีการรับประกันว่าจะได้ผล
ย้ายลงกระถางใหญ่
ถ้ารากไหลซึมออกมาจากก้นหม้อ หรือลูกบอลของหม้อนูนออกมาเกินขอบหม้อ แสดงว่าหม้อมีขนาดเล็กเกินไป วางต้นไม้ไว้ในกระถางที่ใหญ่กว่า (€74.00 ใน Amazon) โดยมีรูระบายน้ำขนาดใหญ่
อย่าวางแดดจัดจนเกินไป
ผักชีฝรั่งไม่ทนต่อแสงแดดได้ดี และโดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่อยู่หลังบานกระจกโดยตรง วางต้นไม้ให้สว่างที่สุดโดยไม่โดนแสงแดด
การรดน้ำเป็นปัญหาหลัก
เมื่อผักชีฝรั่งใบร่วง ผู้บริโภคจำนวนมากเชื่อว่าต้องการน้ำมากขึ้น แต่กลับตรงกันข้าม
น้ำขังในกระถางเป็นจุดสิ้นสุดของผักชีฝรั่งทุกต้น ดังนั้นเรือจะต้องมีรูระบายน้ำขนาดใหญ่และยืนบนรถไฟเหาะ ควรทิ้งน้ำชลประทานส่วนเกินทิ้งทันที
ก่อนรดน้ำให้ตรวจสอบด้วยนิ้วว่าดินในหม้อแห้งหรือไม่ พืชจึงต้องการน้ำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่ารดน้ำมากเกินไป แค่ลูกหม้อ ชื้นแต่ไม่เปียกก็พอ
เคล็ดลับ
หากคุณต้องการซื้อพาร์สลีย์ในกระถางเพื่อจะได้เก็บเกี่ยวได้เป็นระยะเวลานานหรือปลูกในสวนก็ควรไปที่ร้านทำสวนพืชที่นำเสนอมีความแข็งแกร่งมากขึ้น จะดียิ่งขึ้นไปอีกถ้าคุณหว่านผักชีฝรั่งด้วยตัวเอง คุณจะได้พืชที่แข็งแรงและมีสุขภาพดี