เจลที่ทำจากใบว่านหางจระเข้ไม่เพียงมีประโยชน์ต่อผิวหนังและเส้นผมเท่านั้น แต่ยังเหมาะเป็นวัตถุเจือปนอาหารอีกด้วย ว่ากันว่ามีทั้งฤทธิ์ทำให้จิตใจสงบและเข้มแข็ง โดยเฉพาะต่ออวัยวะย่อยอาหาร
เจลว่านหางจระเข้กินได้ไหม
เจลว่านหางจระเข้สามารถใช้เป็นวัตถุเจือปนอาหารได้ โดยคนลงในโยเกิร์ต ซีเรียล หรือเครื่องดื่มเย็นๆ นอกจากนี้ยังสามารถรับประทานเจลบริสุทธิ์ได้ แต่มีรสขมเล็กน้อยและเป็นกลาง
ว่านหางจระเข้มีสรรพคุณทางยามานานหลายศตวรรษเพื่อใช้ในการรักษาโรคผิวหนังต่างๆ ชิ้นส่วนใบที่ตัดถูกนำมาใช้ในการรักษาแผลไหม้และการบาดเจ็บเล็กๆ ได้สำเร็จ แต่ยังใช้รักษาผื่น โรคสะเก็ดเงิน และโรคผิวหนังอักเสบได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ตำนานของว่านหางจระเข้เป็นยาครอบจักรวาล ตั้งแต่การเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันโดยทั่วไปและการล้างพิษในร่างกาย ไปจนถึงการรักษาโรคร้ายแรง เช่น เบาหวาน หรือแม้แต่มะเร็ง ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ อะโลอินที่มีอยู่ในพืชมีฤทธิ์เป็นยาระบายได้ดี ดังนั้นการเตรียมการบางอย่างที่ยังคงมีอยู่ในปัจจุบันจึงมีจำหน่ายในร้านขายยาเท่านั้น
วินว่านหางจระเข้
ใบว่านหางจระเข้เติบโตจากภายในสู่ภายนอก ในขณะที่พืชสร้างใบใหม่อย่างต่อเนื่องตรงกลาง ใบด้านนอกจะตายหรือสามารถเก็บเกี่ยวเป็นประจำเพื่อสร้างเจลได้โปรดทราบว่าหลังจากตัดใบแล้ว ควรวางใบในแนวตั้งจนกระทั่งน้ำสีเหลือง ขม และมีพิษเล็กน้อยระบายออกไปจนหมด จากนั้นดำเนินการดังนี้:
- ขั้นแรกให้แบ่งแผ่นงานตามขวางออกเป็นส่วนๆ
- แบ่งครึ่งแต่ละชิ้นตามยาว
- ใช้ช้อนขูดเจลสดออกจากครึ่ง
การใช้และการแปรรูปเจล
ขอแนะนำให้เก็บเกี่ยวใบให้ได้มากที่สุดตามปริมาณเจลสดที่คุณต้องการเท่านั้น ชิ้นใบไม้สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้สองสามวัน หากเก็บไว้เป็นเวลานาน สารออกฤทธิ์จะสูญหายไป เจลสดสามารถแช่แข็งได้โดยไม่สูญเสียคุณภาพอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากละลายแล้วควรใช้ทันที คุณใช้เจลโดยทาลงบนผิวหนังหรือกวนลงในโยเกิร์ต ซีเรียล หรือเครื่องดื่มเย็นๆ เมื่อรับประทานอาหาร เจลบริสุทธิ์ก็กินได้ แต่ไม่มีรสชาติพิเศษหรือมีรสขมเล็กน้อย
เคล็ดลับ
หากคุณสนใจทำครีม สบู่ หรือโลชั่นแบบโฮมเมดที่มีว่านหางจระเข้ คุณจะพบสูตรอาหารมากมายพร้อมคำแนะนำโดยละเอียดบนอินเทอร์เน็ต วิธีที่ง่ายที่สุดยังคงถูผิวหน้าในตอนเช้าและเย็นด้วยใบที่ตัดแล้ว อย่างที่ว่ากันว่าคลีโอพัตราทำแล้ว