คอร์นฟลาวเวอร์สีฟ้าสดใสเคยถูกมองว่าเป็นวัชพืชที่น่ารำคาญและถูกต่อสู้ด้วย เนื่องจากหายากตามริมถนนและในทุ่งนา จึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะไม้ประดับที่สวยงามในสวนของเรา การหว่านพืชนั้นไม่ซับซ้อนมากจนแทบจะหาพืชที่ปลูกไว้ล่วงหน้าในศูนย์สวนได้ยาก ด้วยเคล็ดลับการจัดสวนของเรา คุณก็รับประกันได้ว่าจะเพลิดเพลินไปกับทะเลดอกไม้คอร์นฟลาวเวอร์ที่สวยงามเช่นกัน
จะหว่านคอร์นฟลาวเวอร์ในสวนหรือในบ้านได้อย่างไร
คอร์นฟลาวเวอร์หว่านง่าย ไม่ว่าจะปลูกในอาคารตั้งแต่เดือนมีนาคมบนขอบหน้าต่างในถาดเมล็ดพร้อมดินปลูก หรือปลูกโดยตรงในแปลงดอกไม้ตั้งแต่กลางเดือนเมษายน กลบเมล็ดพืชบางๆ ด้วยดิน รดน้ำอย่างระมัดระวังและดูแลให้อยู่ในที่สว่างโดยไม่มีแสงแดดส่องโดยตรง
หว่านในบ้าน
คุณสามารถเริ่มปลูกคอร์นฟลาวเวอร์บนขอบหน้าต่างได้เร็วที่สุดในเดือนมีนาคม
- เติมถาดเพาะเมล็ดหรือปลูกกระถางด้วยดินปลูก
- โรยเมล็ดไว้ด้านบนแล้วกลบด้วยดินบางๆ (หัวงอกสีเข้ม).
- เปียกด้วยเครื่องพ่นแต่อย่าให้เปียกจนหมด
- วางภาชนะเพาะปลูกโดยมีฝาปิดหรือถุงพลาสติกใส (€32.00 ใน Amazon) ทับไว้
- วางในที่อบอุ่นและสว่าง ไม่ให้โดนแสงแดดโดยตรง
- ออกอากาศทุกวันเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราและเน่า
ดอกคอร์นฟลาวเวอร์งอกค่อนข้างเร็วและเชื่อถือได้ ทันทีที่ใบคู่ที่สองปรากฏขึ้นแนะนำให้แยกต้นกล้าเล็กออก ตอนนี้แต่ละต้นมีกระถางของตัวเองแล้ว ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ฝาครอบฟอยล์อีกต่อไป เช่นเคย พื้นผิวจะคงความชุ่มชื้นแต่ไม่เปียกเกินไป
เมื่อถึงเวลาที่นักบุญน้ำแข็งมาถึง ดอกไม้ชนิดหนึ่งได้พัฒนาเป็นพืชที่แข็งแรงและสามารถย้ายไปยังตำแหน่งสุดท้ายบนเตียงไม้ยืนต้นได้ทันทีที่ไม่มีภัยคุกคามจากน้ำค้างแข็งในตอนกลางคืนอีกต่อไป
หว่านลงแปลงดอกไม้โดยตรง
คุณสามารถหว่านคอร์นฟลาวเวอร์ลงแปลงดอกไม้ได้โดยตรงตั้งแต่กลางเดือนเมษายน
- สับดินให้ละเอียด กำจัดรากและวัชพืชที่ตกค้างออกทั้งหมด แล้วใส่ปุ๋ยหมัก
- ปรับพื้นผิวให้เรียบด้วยคราด
- วาดร่องแล้วโปรยเมล็ดลงไป
- กลบดินบางๆ
- รดน้ำอย่างระมัดระวังด้วยลำธารอ่อนๆ เพื่อไม่ให้เมล็ดชะล้าง
เคล็ดลับ
ไม่จำเป็นต้องเป็นถาดเพาะปลูกที่มีราคาแพงเสมอไป หม้อโยเกิร์ตแบบเก่าที่มีรูเล็กๆ ที่ก้นเพื่อระบายน้ำก็เหมาะสมเช่นกัน วางก้อนกรวดเล็กๆ ไว้ด้านบนเพื่อไม่ให้ท่อระบายน้ำอุดตัน จากนั้นจึงเติมดินสำหรับปลูก