กล้วยแคระสีชมพูดูแลไม่ง่ายแต่ก็มีเสน่ห์มาก หากดูแลอย่างดีก็จะได้กล้วยลูกเล็กที่ตกแต่งสวยงามและอร่อยมาก โอกาสที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ดีนั้นชดเชยความต้องการการดูแลที่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ดูแลกล้วยแคระสีชมพูอย่างไร
กล้วยแคระสีชมพูต้องการการดูแลเอาใจใส่: ชอบอยู่ในที่ร่มบางส่วนหรือมีแสงแดดส่องถึง ป้องกันลมและกระแสลมดินควรอุดมด้วยสารอาหาร หลวมและซึมผ่านได้ รดน้ำต้นไม้เป็นประจำและให้ปุ๋ยทุกสัปดาห์ด้วยปุ๋ยที่สมบูรณ์ ใส่ใจกับความชื้นสูง
ถูกที่แล้วกล้วยแคระสีชมพู
บ้านกล้วยแคระสีชมพูอยู่ในเขตร้อน ไม่น่าแปลกใจเลยที่พืชชนิดนี้ต้องการความอบอุ่นและความชื้นสูงในการเจริญเติบโตและผลิตผลที่อุดมสมบูรณ์ สถานที่ที่มีแดดจัดถึงมีร่มเงาบางส่วนเหมาะอย่างยิ่งสำหรับพืชที่ไม่แข็งแกร่งชนิดนี้ แต่น่าจะกันลมได้แน่นอน
การปลูกกล้วยแคระสีชมพูอย่างถูกต้อง
กล้วยแคระสีชมพูเหมาะสำหรับปลูกในกระถางจึงสามารถย้ายไปยังบริเวณฤดูหนาวที่เหมาะสมได้อย่างง่ายดาย เพิ่มกรวดหรือทรายหยาบลงในดินที่มีฮิวมัสเพื่อทำให้ดินร่วนและซึมเข้าไปได้
รดน้ำและใส่ปุ๋ยกล้วยแคระสีชมพูให้ถูกต้อง
รักษาดินรอบๆ กล้วยแคระสีชมพูให้ชุ่มชื้นเท่าๆ กัน แต่ไม่เปียก มิฉะนั้นรากที่เป็นเนื้อจะเริ่มเน่าง่าย ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงกันยายน ให้ปุ๋ยน้ำแก่กล้วยแคระของคุณ (€8.00 ใน Amazon) ทุกสัปดาห์พร้อมกับน้ำชลประทาน เพื่อให้แน่ใจว่าความชื้นในอากาศสูงเพียงพอ เราแนะนำให้ฉีดพ่นพืชเป็นประจำด้วยน้ำที่มีปริมาณปูนขาวน้อยที่สุด
กล้วยแคระสีชมพูในฤดูหนาว
อุณหภูมิที่เหมาะสำหรับการเลี้ยงกล้วยแคระเหนือฤดูหนาวคือมากกว่า 10 °C หากกล้วยของคุณผลัดใบในฤดูหนาว ให้รักษาดินให้ชุ่มชื้นเล็กน้อยต่อไป ต้นไม้อาจงอกอีกครั้งในฤดูใบไม้ผลิ
สถานที่ถัดจากเครื่องทำความร้อนไม่เหมาะกับกล้วยแคระอย่างยิ่ง แม้ว่ากล้วยจะชอบความอบอุ่นก็ตาม ความชื้นต่ำทำให้เกิดไรแมงมุมระบาดได้ง่าย
สิ่งที่สำคัญที่สุดโดยย่อ:
- ต้องการการดูแลค่อนข้างมาก
- ไม่แข็งกระด้าง
- ที่ตั้ง: มีร่มเงาบางส่วนถึงแดดจัด แต่ไม่มีแสงแดดส่องถึงโดยตรง มีที่บังลมและลมพัดอย่างเต็มที่
- ดิน: อุดมด้วยสารอาหาร หลวมและซึมผ่านได้
- การรดน้ำ: ทำให้ดินชุ่มชื้นสม่ำเสมอแต่ไม่เปียก
- ความชื้นสูง
- ใส่ปุ๋ย: ให้ปุ๋ยครบสัปดาห์ละครั้ง
เคล็ดลับ
หากกล้วยแคระสีชมพูแห้งเกินไปก็จะเป็นโรคไรเดอร์ได้ง่าย การฉีดพ่นด้วยน้ำที่ไม่มีปูนขาวเป็นมาตรการช่วยเหลือที่มีประสิทธิภาพ