ผลของคาลามอนดินสีส้มประดับหรือแคระนั้นกินได้อย่างแน่นอน แต่มักถูกมองว่าแทบจะกินไม่ได้ ควรมีรสเปรี้ยวและ/หรือขมและไม่ชุ่มฉ่ำเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม

ส้มประดับกินได้ไหม?
ส้มประดับหรือที่เรียกว่าคาลามอนดินนั้นกินได้แต่มักอธิบายว่ากินไม่ได้เนื่องจากมีรสเปรี้ยวและ/หรือขมและมีน้ำผลไม้เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม การดูแลอย่างเหมาะสมโดยให้แสงสว่างเพียงพอและปุ๋ยพิเศษสามารถปรับปรุงรสชาติได้
ส้มคาลามอนดินเป็นลูกผสมระหว่างส้มแมนดารินกับส้มคัมควอต และมาจากประเทศจีน สามารถพบได้ในเชิงพาณิชย์ภายใต้ชื่อทางพฤกษศาสตร์ต่างๆ ด้วยใบไม้สีเขียวเข้ม มันเงา และดอกไม้สีขาว จึงเป็นเครื่องประดับที่แท้จริงสำหรับสวนฤดูหนาวของคุณแม้ว่าจะไม่มีผลไม้ก็ตาม กลิ่นหอมเข้มข้น ชื่นใจมากๆ
จะดูแลส้มประดับอย่างไร?
เช่นเดียวกับผลไม้อื่นๆ ส้มประดับต้องการแสงมากในการสุก เมื่อนั้นสีส้มสดใสจะพัฒนา แต่ยังเพิ่มความหวานในผลไม้ด้วย ในฤดูร้อน ส้มประดับให้ความรู้สึกสบายมากในสถานที่ที่ได้รับการปกป้องจากลมในสวนหรือบนระเบียง อย่างไรก็ตาม พืชจะต้องค่อยๆ คุ้นเคยกับแสงแดดที่แผดจ้าเพื่อไม่ให้ใบไม้ไหม้
รดน้ำส้มประดับทุกวัน อาจวันละสองครั้งหากอุณหภูมิสูง แต่ต้องระวังอย่าให้น้ำท่วมขัง ปุ๋ยส้มชนิดพิเศษ (6.00 0 ยูโรที่ Amazon) ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับสารอาหารที่เหมาะสมที่สุดผสมพันธุ์ส้มประดับทุกสัปดาห์ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงตุลาคม ต้นไม้ที่สวยงามแห่งนี้ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านตลอดทั้งปีในห้องนั่งเล่นที่สว่างสดใสหรือสวนฤดูหนาว เพื่อไม่ให้ใหญ่เกินไปสามารถตัดเป็นรูปทรงได้สม่ำเสมอ
ส้มประดับในฤดูหนาว
ส้มประดับไม่แข็งแรง ไม่ชอบอุณหภูมิต่ำกว่า 10 °C เป็นพิเศษ ตามหลักการแล้ว คุณควรปลูกต้นไม้ในสวนฤดูหนาวที่สว่างสดใสที่อุณหภูมิประมาณ 10 °C ยิ่งอากาศอบอุ่นและสว่างมากขึ้นในช่วงฤดูหนาว ส้มประดับก็จะยิ่งต้องการน้ำมากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม คุณควรหลีกเลี่ยงการใส่ปุ๋ยจนกว่าหน่อแรกจะปรากฏในฤดูใบไม้ผลิ
สิ่งที่สำคัญที่สุดโดยย่อ:
- ผลไม้กินได้แต่อาจมีรสเปรี้ยวและ/หรือขม
- ต้องการแสงมาก
- เข้าสวนหน้าร้อนได้
- ค่อยๆชินกับแสงแดดจ้า
- ป้องกันลมและลม
- ปกป้องรูทบอลจากความร้อนสูงเกินไป
- น้ำทุกวัน
- หลีกเลี่ยงน้ำขัง
- ใส่ปุ๋ยทุกสัปดาห์ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงตุลาคม
- ใช้ปุ๋ยส้มคุณภาพสูง
- อนุญาตให้ตัดแต่งกิ่งตามปกติ
เคล็ดลับ
เพื่อให้ส้มประดับของคุณออกผลตามที่ต้องการ คุณควรเสนอสภาพที่เหมาะสมแก่พืช: มีแสงสว่างเพียงพอ มีน้ำเพียงพอ และปุ๋ยพิเศษ