ผักชีฝรั่งเป็นพืชปลูกล้มลุก หากสภาพของไซต์ดีมากก็อาจเป็นไม้ยืนต้นได้ แต่ก็ไม่สามารถใช้เป็นพืชเครื่องเทศได้อีกต่อไป นับตั้งแต่ออกดอกในปีที่สองก็ออกใบเพียงไม่กี่ใบเท่านั้นซึ่งมีสัดส่วนของเอพิออลพิษสูงเกินไป

ใช้ผักชีฝรั่งยืนต้นได้ไหม
ผักชีฝรั่งจริงๆ แล้วเป็นพืชล้มลุกที่ให้ใบมีกลิ่นหอมในปีแรกและออกดอกในปีที่สอง หลังดอกบานแล้วไม่ควรใช้เป็นพืชเครื่องเทศอีกต่อไป เนื่องจากใบมีสารอะพิออลที่เป็นพิษ
ผักชีฝรั่งเป็นผักทุกสองปี
- สามารถเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปีในปีแรก
- ปีที่สองเก็บเกี่ยวเฉพาะดอกบานในเดือนมิถุนายน/กรกฎาคม
- ห้ามใช้หลังดอกบาน
- หว่านใหม่ในฤดูใบไม้ผลิหรือสิงหาคม
ผักชีฝรั่งเติบโตในที่เดียวเป็นเวลาสองปี
ผักชีฝรั่งปลูกในสวนหรือบนระเบียงเป็นไม้ล้มลุก
หากสภาพทำเลดีจะกลับมาในปีต่อๆ ไป อย่างไรก็ตาม ใบนั้นไม่ควรนำมาใช้ปรุงรสอีกต่อไป
ต้นจะถูกถอนออกหลังดอกบานในปีที่ 2 เนื่องจากผลผลิตในปีต่อๆ ไปแทบไม่ต้องเอ่ยถึง
ต้นผักชีฝรั่งในปีแรก
ในปีแรกหลังหยอดเมล็ด ผักชีฝรั่งจะมีใบรอบๆ หัวใจเยอะมาก
ช่วงนี้ใบไม้มีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ
ถูกตัดใกล้พื้น หัวใจต้องไม่บาดเจ็บเพราะใบไม้ใหม่จะไม่งอกกลับมา
ออกดอกปีที่สอง
ช่อดอกเริ่มบานอย่างช้าที่สุดในเดือนพฤษภาคม ระยะเวลาการออกดอกของผักชีฝรั่งเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม
เมื่อดอกบานแล้ว ใบไม้ก็กินไม่ได้อีกต่อไป เอพิออลที่เป็นพิษซึ่งเป็นน้ำมันหอมระเหยที่ทำให้เกิดการกระตุกของอวัยวะย่อยอาหารและมดลูกสะสมอยู่ในนั้น
หากต้องการเก็บเกี่ยวเมล็ด ให้ทิ้งต้นไว้จนกว่าเมล็ดจะสุก คุณสามารถเก็บเมล็ดแห้งได้นานถึงสามปี คำเตือน: เมล็ดมีพิษ!
หว่านซ้ำในเดือนสิงหาคมหรือฤดูใบไม้ผลิ
คุณสามารถหว่านผักชีฝรั่งบนขอบหน้าต่างได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงสิงหาคมหรือกลางแจ้งโดยตรงในเดือนเมษายนหรือสิงหาคม
การหว่านในเดือนสิงหาคมจะดีกว่าการหว่านกลางแจ้ง เนื่องจากพืชจะได้รับผลกระทบจากโรคและแมลงศัตรูพืชน้อยลง
เคล็ดลับ
หากคุณต้องการปลูกผักชีฝรั่งในสวนอย่างสม่ำเสมอ ควรสร้างเตียงใหม่ทุกปี จากนั้นคุณจะมีสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมเพียงพอและสามารถหมักพืชหลังดอกบานได้